วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2557

[Review]::Spectraban SC Sunscreen Sebum Control Gel SPF40 PA+++


สวัสดีค่ะ มาพบกันอีกแล้ว ไนซ์ค่ะ
ช่วงนี้มีเวลาว่าง เลยนึกครึ้มอกครึ้มใจ อยากจะเขียนอะไรสักอย่าง = =?
สุดท้ายมันก็เลยมาจบลงตรงที่ อ่า !! เขียนรีวิวดีกว่าเนอะ
มาเริ่มกันเลย เจ้าค่ะ WinkWinkWink
ชื่อผลิตภัณฑ์ SpectraBAN SC SUN Screen Sebum Control Gel SPF40/PA+++ (PPD 13) ชื่อยาวมากกกก


คำโปรยจากทางแบรนด์ 
สเปคตร้าแมน เอส ซี เป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดในรูปแบบเจลที่ปราศจากส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ ด้วยสูตรโครงสร้างพิเศษที่ช่วยในการควบคุมความมันบนใ­บหน้า ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสในระหว่างวัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ และทำให้ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติ และคงประสิทธิภาพสูงในการปกป้องรังสียูวีด้วย SPF40 และ PA+++ (PPD 13) ช่วยในการลดการทำงานของเมลาโนไซด์ ลดความหมองคล้ำอันเกิดจากรังสียูวี 


ราคาปกติ 1,090 บาท ขนาด 45 มล. อันนี้แล้วแต่โปรร้านไหนเน้อ
มาทำความรู้จักกับครีมกันแดดกันเถอะ 


ครีมกันแดดคืออะไร ??



ครีมกันแดด (sunscreen) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลายอย่างที่ป้องกันรังสีในแสง แดดคือ รังสีอัลตราไวโอเลต (ultraviolet) หรือที่เรียกย่อๆ ว่ารังสียูวี (UV) ไม่ให้ทำอันตรายต่อผิวหนัง รังสียูวีทั้ง 2 ชนิดคือ ยูวีเอ และยูวีบี ทำให้ผิวหนังบาดเจ็บ และแก่เร็วขึ้น ,,,((กรีสสสสสสส ไม่นะ T^T )) ทั้งยังเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังอีกด­้วยค่ะ รังสียูวีบีเป็นตัวหลักที่ทำให้ผิวไหม้แดด ส่วนรังสียูวีเอที่ทะลุผ่านผิวหนังได้ลึกกว่าจะทำให้­เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น หย่อนยาน และผิวแก่เร็ว นอกจากนี้รังสียูวีเอยังช่วยเสริมฤทธิ์ในการก่อมะเร็­งของรังสียูวีบีด้วย และยังพบว่ารังสียูวีเอเองก็สามารถก่อมะเร็งผิวหนังไ­ด้เช่นกัน ครีมกันแดดแต่ละชนิดจะป้องกันรังสียูวีเอและยูวีบีได­้แตกต่างกันไปค่ะ
ค่า SPF มีความหมายอย่างไร  ??


ค่า SPF ที่ย่อมาจาก Sun Protection Factor หรือ ‘ค่าการป้องกันแสงแดด’ คือความสามารถของยากันแดดที่ป้องกันรังสียูวีบีจากการทำลาย ผิวหนัง สมมติว่าปกติถ้าโดนแสงแดดนาน 20 นาทีผิวจึงไหม้แดดคือแดง การใช้ยากันแดด SPF 15 ทำให้เพิ่มเวลาเป็น 15 เท่าคือต้องโดนแดด 20x15 = 300 นาทีหรือ 5 ชั่วโมง ผิวจึงไหม้แดดคือแดง โดยที่ยากันแดด SPF 15 จะกันรังสียูวีบีออกไปได้ร้อยละ 93 ถ้า SPF 30 จะกันรังสียูวีบีออกไปได้ร้อยละ 97 และ SPF 50 กันรังสียูวีบีออกไปได้ร้อยละ 98 ยังไม่มียากันแดดตัวใดที่จะกันยูวีได้ทั้งหมดหรือร้อ­ยเปอร์เซ็นต์เต็ม และควรต้องทราบว่าไม่มียากันแดดตัวใดที่ออกฤทธิ์นานเ­กิน 2 ชั่วโมงจึงต้องทายาซ้ำ และอาการผิวแดงที่เห็นนั้นเป็นผลของรังสียูวีบีเพียง­อย่างเดียว จึงไม่อาจประเมินได้แน่ชัดว่าผิวหนังจะถูกทำลายจากรั­งสียูวีเอมากน้อยเพียงใด พบว่าบางครั้งผิวอาจถูกทำลายมากโดยผิวไม่ไหม้แดงก็ได­้
ใครบ้างที่ควรใช้ครีมกันแดด ??


ผู้ที่มีอายุเกิน 6 เดือนที่ต้องโดนแดดควรทายากันแดดทุกวัน แม้แต่ผู้ที่ทำงานในที่ร่มที่มีโอกาสได้รับรังสียูวี

เช่น พนักงานที่ออกนอกอาคารช่วงพักเที่ยงเพื่อไปรับประทาน­อาหาร กลางวัน หรือผู้ที่นั่งทำงานใกล้หน้าต่าง เพราะพบว่าแม้กระจกจะกรองรังสียูวีบี แต่รังสียูวีเอยังสามารถทะลุผ่านเข้ามาได้ ผู้ที่ใช้ยารักษาสิวส่วนใหญ่ทั้งยาทาและยารับประทาน ยามักทำให้ผิวหนังได้รับผลเสียจากแสงแดดได้ง่ายขึ้น เพราะยาเหล่านี้ทำให้ผิวไวต่อรังสียูวี โดยเฉพาะรังสียูวีเอซึ่งเป็นช่วงคลื่นของแสงแดดที่เก­ี่ยวข้องกับผิวเหี่ยวแก่มากที่สุด ผิวที่มีแผลเป็นจากสิวจะยิ่งได้รับผลเสียจากรังสียูว­ีเอมากยิ่งขึ้น ผู้ที่รักษาสิวจึงควรใช้ยากันแดดควบคู่ไปด้วย การเลือกใช้ยากันแดดในผู้ที่เป็นสิวและมีผิวมันควรเล­ือก ใช้ในรูปของครีม ของเหลว น้ำนม และสเปรย์ ในทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือนไม่ควรใช้ยากันแดด เพราะผิวทารกจะไวต่อสารเคมีที่ผสมในยากันแดด จึงต้องระวังให้เด็กอยู่ในร่ม กางร่มหรือสวมเสื้อผ้าและหมวกปกคลุมให้มิดชิด ในเด็กอายุมากกว่า 6 เดือน นอกจากจะใช้เสื้อผ้าป้องกันแดดแล้ว หากโดนแสงแดดก็ต้องใช้ยากันแดดกลุ่มที่ไม่ใช่ PABA ทากันไว้ก่อน เพราะยากลุ่ม PABA อาจทำให้ผิวระคายเคืองและแสบตา ยากลุ่มที่อนุมัติให้ใช้ในเด็กอายุมากกว่า 6 เดือน คือ oxybenzone
ควรเลือกใช้ครีมกันแดดชนิดใด ??


ควรใช้ครีมกันแดดที่มีฤทธิ์ครอบคลุมกว้าง (broad-spectrum sunscreen) ที่กันได้ทั้งรังสียูวีเอและยูวีบี ปัจจุบันครีมหรือโลชันทาหลังโกนหนวด และครีมให้ความชุ่มชื้นหลายชนิด มีส่วนผสมของครีมกันแดดในตัวอยู่แล้ว (มักเป็นค่า SPF 15 หรือมากกว่า) ซึ่งพอเพียงสำหรับกิจวัตรประจำวันที่วันหนึ่งโดนแดดแค่ไม่กี่นาที แต่ถ้าทำงานหรือเล่นกีฬากลางแจ้งควรใช้ครีมกันแดดที่­มี SPF สูงกว่านั้น และเป็นชนิดที่ทนน้ำ (water resistant) เพราะหากเหงื่อออกเนื้อยาจะไม่ละลายไหลเข้าตาจึงไม่แ­สบตา ครีมกันแดดจะมีส่วนผสมที่มีคุณสมบัติกันแดดทางเคมีแล­ะทาง กายภาพร่วมกัน เช่น มีส่วนผสมของอนุพันธุ์ของ PABA, salicylates และ/หรือ cinnamates (octylmethoxycinnamate และ cinoxate) เพื่อดูดซับรังสียูวีบี; benzophenones (เช่น oxybenzone และ sulisobenzone) เพื่อป้องกันรังสียูวีเอช่วงคลื่นสั้น; avobenzone, ecamsule, titanium dioxide หรือ zinc oxide เพื่อป้องกันรังสียูวีเอช่วงคลื่นที่เหลือ
อ้างอิงบทความมาจากกูเกิลค่ะ นานแล้วจำไม่ได้ว่าเว็บอะไร แหะๆ ขออภัยค๊าบบบ Embarassed
ลักษณะเป็นหัวปั๊มค่ะ ใช้ง่ายมากๆ มีฝาปิดเป็นพลาสติกแข็งใส โดยปรกติชอบหัวปั๊มแบบนี้มากๆ มันดูแข็งแรง แล้วก็ให้ความรู้สึกสะอาด แล้วก็สะดวกสุดๆ ตัวผลิตภัณฑ์ เป็นพลาสติกสีขาวแข็งแรงทนทานค่ะ ^^
ส่วนประกอบต่างๆในเจ้าครีมกันแดดตัวนี้ 


Cyclepentasiloxane, Dimethicon Crosspolymer, Ethylhexyl Methoxycinnamate, C12-15 Alkyl Benzoate, Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine, Cetyl Dimethicone, Diethylamino Hydroxybenzoyl Hexyl Benzoate, Cyclohexasiloxane
มาดูเนื้อผลิตภัณ์กันค่ะ 


เป็นเจลขุ่นๆ เนื้อสัมผัสเหมือนซิลิโคนนิ่มๆ ลื่นๆ ไม่มีกลิ่นค่ะ ไม่มีแอลกอฮอล์เหมือนทางแบรนด์เคลมเลย อิอิ
ตอนเกลี่ยลื่นมากก อยากจะลูบนานๆ เนื้อมันเบาๆดี >w<
ลูบแปบเดียว ซึมหายไปหมดเลย ไม่ทิ้งคราบและร่องรอยว่าเคยทาไปเมื่อกี้ =3= เริ่ดมากกกก
ผลสรุปจากการใช้ Spectraban SC Sunscreen Sebum Control Gel SPF40 PA+++ 


ข้อดี Wink



+ กันแดดได้ดีประมาณ 6-8 ชม. 
+ คุมมันปานกลาง 
+ ไม่เหนียวเหนอะหนะ 
+ ไม่มีน้ำหอม และ แอลกอฮอล์ 
+ ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ คนผิวแพ้ง่ายแนะนำค่ะ 
+ หาซื้อง่ายตามห้างสรรพสินค้า และ drugstore ทั่วไปค่ะ (Watsons, Boots) 



ข้อเสีย Tongue out



- เมื่อเทียบกับปริมาณแล้ว ถือว่าราคาค่อนข้างสูงค่ะ
ขอบคุณท่านผู้ชม และ google ที่ให้เราหาความรู้ได้อย่างไร้ขีดจำกัดค่าาาา Cool




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น